ขับรถเซฟน้ำมัน เทคนิคการขับรถที่จะช่วยให้ ประหยัดเงิน และถนอมรถยนต์

ขับรถเซฟน้ำมัน

ขับรถเซฟน้ำมัน ที่จะมาบอกเล่า แนะนำให้ทุกคน ได้ลองไปปรับใช้กัน ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ขึ้น เผื่อจะช่วยให้ใครหลายคนเริ่ม ขับรถเซฟน้ำมัน​ ประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย

ขับรถเซฟน้ำมัน เรื่องแรกที่จะพูดถึง จะเป็นเรื่องของความเร็ว ไม่ว่าจะขับด้วยความเร็วเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถ แต่ขอกระซิบบอกก่อนว่า ยิ่งหยีบคันเร่งให้น้อย ก็จะยิ่งกินน้ำมันน้อยลง

เพียงแค่ขับให้ ความเร็วคงที่เป็นพอ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ขับรถเกียร์ ออ โต้ ให้ประหยัดน้ำมัน เพราะถ้าหากตอนไหน จะต้องเร่งความเร็วมากกว่าปกติ หรือต้องเหยียบคันเร่ง เพื่อแซงในยามที่ จำเป็นก็ไม่เป็นไร

อาจจะไม่ต้องเปลี่ยนแปลง สไตล์การขับของคุณเลย ในการเพิ่มความเร็ว หรือลดความเร็ว สามารถทำได้ตามต้องการ ขับรถเซฟน้ำมัน หากเมื่อไหร่ที่ ต้องขับทางตรงยาว ๆ โล่ง ๆ ควรทำความเร็วให้คงที่ก็พอ หลีกเลี่ยงการเร่งความเร็ว ในช่วงเวลาออกตัว เนื่องจากเวลาที่รถ เริ่มเคลื่อนตัวย่อมต้องใช้กำลัง หากยิ่งออกแรงมาก ก็จะทำให้เปลืองน้ำมันยิ่งขึ้น

ขับรถเซฟน้ำมัน​

เติมลมยางให้ตัวเลข สูงจากปกติประมาณ 2-3 ปอนด์ วิธีนี้เรียกได้ว่าจะช่วย ประหยัดน้ำมัน อย่างเห็นได้ชัดมาก ๆ โดยเฉพาะเวลาที่ ต้องขับในระยะทางไกล ไม่ต้องกังวลว่าถ้าเติมเยอะ กว่าตัวเลขปกติ จะทำให้ยางรถดูกระด้าง

ซึ่งจริง ๆ ขับรถเซฟน้ำมัน แล้วยางรถยนต์ ไม่ได้กระด้างถึงขั้นที่ว่า จะทำให้การขับรถ ของคุณมีปัญหาแต่อย่างใด โดยถือว่ามันเป็น ความพอใจของเจ้าของรถ แต่แอบกระซิบบอกก่อนว่า ไม่ควรเติมอย่างรถยนต์ เกินจากเลขปกติมากกว่า 5 ปอนด์ ถ้าคุณไม่ได้รถ เพื่อบรรทุกของหนัก

หมั่นตรวจ เช็กน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก เมื่อครบกำหนด ควรเข้าศูนย์ หรือเข้าอู๋ซ่อมรถยต์ เพื่อตรวจดูเรื่องเหล่านี้อยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยให้น้ำมัน มีสีดำเหนียวข้น ขับรถทางไกล ให้ประหยัดน้ำมัน

การหลีกเลี่ยงพฤติกรรม เดี๋ยวเบรกเดี๋ยวเบรก ไม่ควรเบรกบ่อยจนเกินไป ในตอนที่กำลังขับอยู่บนถนน เนื่องจากการเบรก ทำให้กำลังของรถตกลงไป และเมื่อต้องออกตัวอีกครั้ง จะต้องเหยียบคันเร่ง ในการเร่งเครื่องอีกครั้ง ซึ่งทำให้เปลืองน้ำมัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขับรถเซฟน้ำมัน ในมือใหม่ส่วนใหญ่ จะมีพฤติกรรมที่เดี๋ยวเบรก เดี๋ยวเบรก น่าจะเป็นอาการที่กลัวว่า จะชนคันหน้า จึงเหยียบเบรกเผื่อไว้ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว คนหลังต่างหาก ที่จะเป็นฝ่ายชนคุณมากกว่า และไม่ได้ช่วยเรื่อง

ทำ อย่างไร ให้ รถยนต์ ประหยัด น้ำมัน มาก ขึ้น ทางที่ดี เทคนิคการขับรถ ควรจะดูระยะให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลด การเหยียบเบรก ที่ไม่มีความจำเป็น นอกจากจะเปลืองน้ำมันแล้ว ยังทำให้ผ้าเบรกหมดสภาพเร็ว ทำให้เปลี่ยนเร็วกว่ากำหนด ยิ่งเปลืองเงินไปอีก

ขับรถเซฟน้ำมัน​

ในช่วงเวลาที่จะหยุดรถ แนะว่าควรประเมินระยะ และเอาเท้าออกจากคันเร่ง ค่อย ๆ เหยียบเบรกทีละนิด และเมื่ออยู่ในระยะที่ใกล้เข้ามา ถึงจะเหยียบเบรกค้าง เพื่อให้รถหยุด จะดีกว่าระยะใกล้ ๆ ถึงจะเหยียบเบรก ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมัน มากเกินความจำเป็น จำเป็นต้องรู้เทคนิค ขับรถเซฟน้ำมัน

หากจะต้องจอดรถ เพื่อรอนิ่ง ๆ ประมาณ 15-30 นาที ควรปิดแอร์ และดับเครื่องยนต์ ควรจะหาพัดลมเล็ก ๆ ไว้ในรถสักตัว ซึ่งสมัยนี้จะมีแบบ ที่สามารถชาร์จในรถได้ หลังจากที่ดับเครื่องไปสักพัก จะยังมีความเย็นเหลืออยู่ ถ้าหากเปิดพัดลม ก็จะทำให้ไม่ร้อนมาก แต่ถ้าคนไหนไม่ขี้ร้อน ถือว่าเรื่องแค่นี้สบายมาก

ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วย ขับรถเซฟน้ำมัน หรือ ขับรถประหยัดน้ำมัน pantip แต่อาจจะทำให้การขับรถ ของใครหลายคน รู้สึกยุ่งยาก ลำบากมากเกินไป ทางเรายังไม่ได้หยิบมาพูด แนะนำให้ทำตาม วิธีที่กล่าวไปข้างต้น จนเป็น ความเคยชินเสียก่อน และบางวิธีนั้นอาจจะยุ่งยาก หรือดูลำบากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการปิดแอร์ขับ ที่ทำให้ประหยัดมากขึ้น

การติดตั้งชุดเดินไฟ เพื่อเป็นการช่วย กระแสไฟ ภายในรถทำงานได้ดีขึ้น การเติมน้ำยาสังเคราะห์ ชนิดพิเศษให้กับเครื่องยนต์ ฯลฯ โดยไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน หรือหากสิ่งเหล่านั้นไม่ทำให้ คุณรู้สึกลำบากมากเกินไป ก็แนะนำว่าควรทำ จนกลายเป็นความเคยชิน

ขับรถเซฟน้ำมัน​ นอกเหนือจากการขับรถ ที่จะช่วยให้คุณ ประหยัดน้ำมันได้แล้ว แต่วิธีการที่ทำให้ ขับรถได้นิ่มนวล ยังช่วยถนอมรถยนต์ ของคุณได้อีกด้วย ซึ่งมีวิธีการดังนี้

ในการออกตัวรถยนต์ เว็บเกี่ยวกับรถ หากเป็นเกียร์ธรรมดา แนะนำว่าค่อย ๆ เหยียบคันเร่ง แล้วเอาเท้าออกจากคลัทช์ช้า ๆ ซึ่งจะทำให้รถ ไม่กระโชกโฮกฮาก และไม่ควรที่จะให้ รถเคลื่อนตัวช้ามากไป หากว่าคุณขับรถอยู่ในเมือง เพราะอาจจะไม่พ้นไฟแดง ทำให้รถคันหลัง จะไม่พอใจกันได้

ถ้าหากเป็นเกียร์ออโต้ เมื่อเหยียบคันเร่งออกตัว รถเคลื่อนตัวไปได้ระดับนึง เพียงให้รอบเครื่องถึงระดับที่ระบบเกียร์ จะเปลี่ยนที่พันรอบเศษ ๆ ให้ถอนจากคันเร่งหน่อย ๆ ซึ่งจะทำให้เกียร์ เปลี่ยนได้อย่างนุ่มนวล เรียกว่าเป็นการ ถนอมเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ไม่ให้ เสื่อมสภาพก่อนเวลา

การขับรถตอนเข้าโค้ง ให้รถเคลื่อนที่ได้ นิ่มนวลและปลอดภัย ก่อนรถจะเคลื่อนที่เข้าโค้ง ให้ประเมินเส้นทางข้างหน้า ว่าคือโค้งที่มีลักษณะกว้าง ๆ หรือเป็นโค้งหักศอก อาจจะใช้วิธีการสังเกต ตรงป้ายลูกศร หากระยะของป้ายนั้นปักห่าง ๆ กัน หมายถึงโค้งนั้น ไม่ได้หักมากเกินไป แต่หากเจอป้ายตั้งถี่ ๆ นั้นหมายถึงเป็นโค้ง ที่ค่อนข้างอันตราย

แนะนำว่าให้พิจารณา ความเร็วของรถ และเตรียมตัวที่จะต้อง ชะลอรถไว้เลย หากจะต้องเหยียบเบรก จะต้องเบรกก่อนถึงทางโค้ง ถ้าหากรถวิ่งอยู่ในความเร็ว ในขณะที่รถกำลังเข้าโค้ง หากเพิ่งมารู้สึกว่า การเคลื่อนที่ของเร็วไป แล้วเพิ่งจะตัดสินใจเหยียบเบรก อาจจะทำให้คุณไม่สามารถ ควบคุมรถให้เข้าโค้ง เป็นเหตุให้รถเสียหลัก ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

ขับรถเซฟน้ำมัน​

หลังจากที่ชะลอความเร็ว ได้พอดีแล้ว นั่นหมายถึงรู้สึกว่ารถไม่เร็ว ไม่ช้าเกิน เมื่อเริ่มเข้าโค้ง แนะนำให้ค่อย ๆ เหยียบคันเร่งเบา ๆ เพื่อให้ล้อรถ มีแรงขับเคลื่อน รวมถึงแรงยึดเกาะกับพื้นถนน จะส่งผลให้รถสามารถ ผ่านโค้งนั้นได้อย่างปลอดภัย

ไม่ควรให้รถเคลื่อนที่ ด้วยแรงเฉื่อยจนผ่านโค้งไป เพราะอาจจะทำให้รถ หลุดออกจากถนนไปได้ และอีกสิ่งที่เรียกว่า “การกอดโค้ง” นั่นก็คือหลังจากที่ถอนคันเร่ง ในการที่จะต้องเข้าโค้ง ให้ดูว่าทางโค้งข้างหน้า โค้งไปทางด้านไหน

จากนั้นให้ค่อย ๆ หักพวงมาลัยให้รถ เคลื่อนที่ชิดเส้น ขอบทางที่อยู่ด้านนอก ซึ่งจะทำให้สามารถเห็น ทัศนวิสัยบนท้องถนน จากนั้นค่อย ๆ ขับรถไปชิดขอบใน แล้วเหยียบคันเร่ง เพื่อให้รถเคลื่อนที่ ออกจากทางโค้ง

อย่างเช่น หากเส้นทางข้างหน้า เป็นโค้งต้องหักซ้าย ก่อนที่รถจะเคลื่อนที่ถึงโค้ง ให้บังคับรถเลียบไป ทางด้านขวาก่อน พยายามไม่ให้ออกนอกเลน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แต่ถ้าหากถนนว่าง ก็สามารถเลยเลนออกไปได้ หลังจากนั้น พอรถเริ่มเข้าสู่โค้ง ให้บังคับรถเลียบไปทางซ้ายตามโค้ง โดยวิธีนี้จะทำให้ องศาในการเลี้ยวลดลง และช่วยให้คุณ ขับรถเซฟน้ำมัน​ มากยิ่งขึ้น

ซึ่งเป็นการ ขับรถเซฟน้ำมัน​ หรือ ขับรถทางไกล ประหยัดน้ำมัน เข้าโค้งที่ปลอดภัย และนุ่มนวลอีกด้วย ในการเข้าโค้งควรระมัดระวัง ไม่ให้รถไปคร่อมเลนอื่น โดยเฉพาะการขับเข้าโค้ง บนท้องถนนตามชนบท ที่มีลักษณะที่เป็น ถนนสองเลนสวนกัน เพื่อป้องกันการเกิด อุบัติเหตุกับรถคันอื่นด้วย

พออ่านมาถึงตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิธี ขับรถเซฟน้ำมัน​ ที่จะช่วยให้สบายใจ หรือวิธีขับรถให้นิ่มนวล ล้วนแล้วแต่เป็น วิธีที่จะช่วยถนอมรถยนต์ของคุณ ให้ไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลา ซึ่งหากทุกคนทำได้ ก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ได้มากเลยทีเดียว  

 

เรียบเรียงโดย อลิส