ถ้าพูดถึง มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า pantip 2567 ต้องบอกเลยว่าตลาดแข่งขันกันดุเดือดมากค่ะ รุ่นที่มาแรงจริงๆ จะต้องมี ระยะทางต่อการชาร์จที่คุ้มค่า ระบบชาร์จเร็ว และดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน ซึ่งถ้าเน้นขับในเมืองแบบประหยัดสุด NIU NQi GT/S ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะให้ระยะทางสูงสุดถึง 140 กิโลเมตรต่อชาร์จ แถมยังเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ ส่วนถ้าชอบความสะดวก ไม่ต้องรอชาร์จนาน Gogoro 2 Series ก็น่าสนใจ เพราะเปลี่ยนแบตได้ในไม่กี่วินาที สำหรับสายพรีเมียม Vespa Elettrica คือที่สุดของงานดีไซน์ ขับเงียบแต่แรง ถ้าเป็นคนชอบความเร็วและฟีลขับขี่เหมือนมอเตอร์ไซค์น้ำมัน Super Soco TC Max ก็ตอบโจทย์ ด้วยความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแรงบิดดีไม่แพ้เครื่องยนต์สันดาปค่ะ รุ่นไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด ขึ้นอยู่กับ ไลฟ์สไตล์ การใช้งาน และงบประมาณ เพราะทุกตัวมีจุดเด่นของตัวเองชัดเจนค่ะ
เกณฑ์การเลือก มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีที่สุดในปี 2025
การเลือก มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ในปี 2025 ไม่ใช่แค่ดูว่ารุ่นไหนดังหรือราคาถูกที่สุด แต่ต้องพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้รุ่นที่ คุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งาน และมีประสิทธิภาพสูงสุด ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ระยะทางต่อการชาร์จ ความเร็วสูงสุด ระบบแบตเตอรี่ ดีไซน์ และราคา ทุกอย่างล้วนมีผลต่อการตัดสินใจ และแต่ละคนก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน วันนี้เรามาดูกันว่าควรเลือกยังไงให้ได้รุ่นที่ดีที่สุดค่ะ
ระยะทางต่อการชาร์จ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ระยะทางเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเช็กก่อนซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าค่ะ ปัจจุบันรุ่นที่คุ้มค่าจะต้องวิ่งได้ อย่างน้อย 80-150 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ถ้าใช้งานในเมือง รุ่นที่วิ่งได้ประมาณ 100 กิโลเมตรก็ถือว่าเพียงพอ แต่ถ้าต้องเดินทางไกล หรือใช้ขับขี่เป็นประจำทุกวัน ควรเลือกรุ่นที่ให้ระยะทาง 150 กิโลเมตรขึ้นไป เช่น NIU NQi GT/S หรือ Yadea G5 ที่มีแบตเตอรี่ความจุสูง ช่วยให้ขับขี่ได้ไกลโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
ความเร็วสูงสุดและอัตราเร่งของ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
แม้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดพลังงาน แต่ถ้า อัตราเร่งไม่ดี หรือความเร็วต่ำเกินไป อาจไม่เหมาะกับบางคนค่ะ ถ้าใช้ขับในเมืองทั่วไป รุ่นที่ทำความเร็วได้ 70-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ถือว่าเพียงพอ แต่ถ้าต้องใช้บนถนนใหญ่ หรือขับออกต่างจังหวัด ควรเลือกรุ่นที่ทำความเร็วได้เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เช่น Super Soco TC Max หรือ Gogoro Supersport ซึ่งให้แรงบิดดีและออกตัวไว
ระบบชาร์จแบตเตอรี่ของ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ปัจจุบันมีทั้ง แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ และ แบตเตอรี่ติดตาย ค่ะ ถ้าสะดวกชาร์จที่บ้าน หรือมีจุดชาร์จใกล้ๆ รุ่นที่ใช้แบตเตอรี่แบบติดตาย เช่น Honda EM1 e: ก็น่าสนใจ เพราะมีระบบชาร์จเร็ว แต่ถ้าไม่มีที่ชาร์จที่บ้าน หรืออยากลดเวลาในการรอ ควรเลือกรุ่นที่ สามารถถอดแบตออกไปชาร์จได้ หรือใช้ระบบสลับแบต เช่น Gogoro 2 Series ซึ่งสามารถเปลี่ยนแบตที่สถานีสลับแบตได้ภายในไม่กี่วินาที
ดีไซน์และการออกแบบ
ดีไซน์ของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำคัญพอๆ กับสมรรถนะเลยค่ะ เพราะบางคนชอบลุคสปอร์ต บางคนชอบแนวคลาสสิก ควรเลือกดีไซน์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เช่น Vespa Elettrica ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม หรือ Scomadi Technica e ที่มีความเป็นสกู๊ตเตอร์คลาสสิก ส่วนใครที่ชอบสไตล์ล้ำๆ NIU หรือ Yadea ก็มีตัวเลือกที่ทันสมัย ดูมินิมอลและไฮเทคมากขึ้น
ราคาและความคุ้มค่า
สุดท้ายคือต้องดูว่าราคากับสิ่งที่ได้มันสมเหตุสมผลไหมค่ะ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นในปี 2025 จะอยู่ที่ 40,000-80,000 บาท ส่วนรุ่นกลางๆ ที่ให้สมรรถนะดี วิ่งไกล และชาร์จเร็วจะอยู่ที่ 80,000-150,000 บาท ถ้าเป็นรุ่นพรีเมียมที่มีเทคโนโลยีล้ำๆ อาจแตะ 200,000 บาทขึ้นไป ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ถ้าต้องใช้เดินทางไกลบ่อยๆ ลงทุนรุ่นที่แบตอึดและชาร์จเร็วจะคุ้มกว่าในระยะยาวค่ะ
10 รุ่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า น่าใช้ในปีนี้
ถ้าพูดถึง มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าใช้ในปี 2025 ต้องบอกเลยว่ามีหลายรุ่นที่น่าสนใจ ทั้งรุ่นที่เหมาะกับการขับขี่ในเมือง รุ่นที่มีระยะทางไกล มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผู้ใหญ่ และรุ่นที่ให้ความเร็วแรงไม่แพ้มอเตอร์ไซค์น้ำมันค่ะ การเลือกซื้อในปีนี้ต้องดูที่ ระยะทางต่อการชาร์จ แบตเตอรี่ ความเร็ว ดีไซน์ และราคาที่คุ้มค่า
วันนี้เรามี 10 รุ่นเด็ดที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์มาแนะนำ แต่ละตัวมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ใครกำลังมองหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ดีที่สุด มาดูกันค่ะ
1. NIU NQi GT/S
ถ้าใครมองหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสมรรถนะดี แบรนด์ NIU ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ รุ่นนี้มาพร้อม ระยะทางสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ขับขี่ได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง แถมยังรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนให้ดูข้อมูลรถแบบเรียลไทม์ ใครที่อยากได้รถไฟฟ้าที่ทั้งประหยัดและฟีเจอร์ครบ รุ่นนี้ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ
2. Gogoro 2 Series
สำหรับคนที่อยากได้ความสะดวกสบาย Gogoro 2 Series เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดค่ะ เพราะใช้ระบบ แบตเตอรี่แบบสลับเปลี่ยนได้ ไม่ต้องรอชาร์จนาน แค่ไปสถานีสลับแบตก็ขับต่อได้ทันที เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางบ่อย นอกจากนี้ ดีไซน์ยังดูโมเดิร์น ขับสนุกและมีสมรรถนะดีค่ะ
3. Honda EM1 e
Honda ก็ไม่พลาดกระแสรถไฟฟ้า รุ่น EM1 e: เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง ระยะทางขับขี่อยู่ที่ประมาณ 90 กิโลเมตรต่อการชาร์จ มีระบบแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ และขับขี่นุ่มนวลตามสไตล์ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า honda ค่ะ รุ่นนี้เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่ต้องการรถไว้ใช้งานระยะสั้นในเมือง
4. Yadea G5
Yadea เป็นแบรนด์จีนที่มาแรงในตลาดรถไฟฟ้า รุ่น G5 ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะ ระยะทางต่อชาร์จอยู่ที่ 120 กิโลเมตร มีหน้าจอแสดงผลดิจิทัลเต็มรูปแบบ ดีไซน์โฉบเฉี่ยว และราคาก็ไม่ได้แรงมาก เหมาะกับคนที่ต้องการรถไฟฟ้าที่มีสมรรถนะดีในราคาจับต้องได้ค่ะ
5. Scomadi Technica e
ถ้าใครชอบสไตล์วินเทจ แต่ยังอยากใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Scomadi Technica e คือคำตอบค่ะ เป็นแบรนด์ที่ดีไซน์มาในสไตล์สกู๊ตเตอร์คลาสสิกแบบอังกฤษ ขับแล้วมีเอกลักษณ์ แถมยังให้ระยะทางขับขี่ ประมาณ 110 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ถือเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ทั้งสายแฟชั่นและสายรักสิ่งแวดล้อมค่ะ
6. Super Soco TC Max
ใครที่ต้องการรถไฟฟ้าแต่ยังอยากได้ฟีลขับขี่เหมือนมอเตอร์ไซค์น้ำมัน Super Soco TC Max คือรุ่นที่แนะนำค่ะ รุ่นนี้สามารถทำความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแรงบิดที่ดี อัตราเร่งตอบสนองไว ขับขี่ได้สนุกมากค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบขับขี่สไตล์สปอร์ตแต่ยังต้องการประหยัดพลังงาน
7. Sur-Ron Light Bee X
สายลุยต้องไม่พลาดรุ่นนี้ค่ะ Sur-Ron Light Bee X เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแนววิบากที่ออกแบบมาให้ขับขี่ในเส้นทางออฟโรดโดยเฉพาะ ตัวรถมีน้ำหนักเบา แต่ให้แรงบิดสูง ปีนเขาหรือวิ่งในเส้นทางวิบากได้ดีมาก เหมาะกับคนที่อยากได้รถไว้ขับขี่แนวแอดเวนเจอร์ค่ะ
8. Vespa Elettrica
Vespa เป็นแบรนด์ที่หลายคนชอบเพราะดีไซน์หรูหราและคลาสสิกค่ะ รุ่น Elettrica เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มาพร้อมดีไซน์สุดพรีเมียม แต่ยังให้ความเงียบและขับขี่ได้ไหลลื่น ระยะทางต่อการชาร์จอยู่ที่ 100 กิโลเมตร ใครที่อยากได้รถไฟฟ้าที่ดูดีและมีความพรีเมียม Vespa รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
9. EVOS Legend
EVOS Legend เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ผลิตโดยแบรนด์ไทย ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะกับถนนเมืองไทยโดยเฉพาะ จุดเด่นของรุ่นนี้คือ แบตเตอรี่ความจุสูง วิ่งได้ไกล และราคาไม่แรงมาก เหมาะกับคนที่อยากสนับสนุนแบรนด์ไทยและต้องการรถไฟฟ้าที่ออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพถนนของไทยค่ะ
10. Tesla E-Bike
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่มีข่าวลือว่า Tesla กำลังพัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอยู่ ซึ่งถ้ารุ่นนี้ออกมาจริงๆ ก็น่าจะมาพร้อม เทคโนโลยีสุดล้ำ ระบบ AI ช่วยขับขี่ และแบตเตอรี่ที่ทนทาน ถ้าเปิดตัวเมื่อไหร่ คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่คนจับตามองแน่นอนค่ะ
คำแนะนำก่อนตัดสินใจซื้อ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ก่อนตัดสินใจซื้อ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สิ่งที่ต้องเช็กให้ชัวร์ก่อนคือ ระยะทางต่อการชาร์จ แบตเตอรี่ ความเร็ว และความคุ้มค่าในระยะยาว ค่ะ ถ้าใช้เดินทางในเมืองวันละไม่เกิน 50 กิโลเมตร รุ่นที่ให้ระยะทาง 80-100 กิโลเมตรต่อชาร์จ อย่าง Honda EM1 e: หรือ Gogoro 2 Series ก็ตอบโจทย์ แต่ถ้าต้องเดินทางไกลหรือขับขี่เป็นประจำทุกวัน ควรเลือกรุ่นที่วิ่งได้ 120 กิโลเมตรขึ้นไป
เช่น NIU NQi GT/S หรือ Yadea G5 ที่มีแบตเตอรี่ความจุสูง ถัดมาคือเรื่องระบบชาร์จ ควรดูว่ามี ระบบชาร์จเร็วหรือแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ เพราะถ้าชาร์จนานหรือหาจุดชาร์จยาก อาจไม่สะดวกในการใช้งานค่ะ และที่สำคัญต้องเลือก ศูนย์บริการที่มีอะไหล่รองรับ
เพราะแม้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะดูแลง่ายกว่ารถน้ำมัน แต่แบตเตอรี่และมอเตอร์ก็มีอายุการใช้งาน ถ้าหาศูนย์บริการยาก อาจเป็นปัญหาในระยะยาวค่ะ สุดท้าย อย่าลืมคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ใช่แค่ราคาตัวรถ แต่รวมถึงค่าบำรุงรักษาและค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอนาคตด้วย จะได้ไม่ต้องเจอค่าใช้จ่ายแอบแฝงทีหลังค่ะ
สรุป
การเลือกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ในปี 2025 ต้องดูให้ครบทุกมิติค่ะ ไม่ใช่แค่ราคาถูกที่สุด แต่ต้องเลือกให้ เหมาะกับการใช้งานจริง ถ้าต้องขับขี่ในเมืองระยะใกล้ Gogoro 2 Series หรือ Honda EM1 e: ก็ตอบโจทย์เรื่องความคล่องตัวและความสะดวกในการชาร์จ แต่ถ้าต้องการรุ่นที่วิ่งไกล แบตอึด NIU NQi GT/S หรือ Yadea G5 ก็คุ้มค่า
ส่วนสายซิ่งที่ต้องการความเร็วและแรงบิดดี Super Soco TC Max คือรุ่นที่ควรพิจารณา ถ้าชอบดีไซน์หรูหราและความคลาสสิก Vespa Elettrica หรือ Scomadi Technica e ก็ตอบโจทย์ได้ดีค่ะนี่ยังไม่รวม รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อ อีกหลายรุ่นด้วยนะ ที่สำคัญอย่าลืมเช็กเรื่อง ศูนย์บริการ การรับประกัน และค่าใช้จ่ายระยะยาว เพื่อให้มั่นใจว่ารถที่เลือกมาเป็น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จดทะเบียนได้ แถมคุ้มค่ากับการใช้งานที่สุดค่ะ