เช็คน้ำมันเครื่อง การดูแลรักษา รถขั้นพื้นฐาน ที่คุณควรรู้
เช็คน้ำมันเครื่อง นั้นเป็นเรื่องง่าย ๆ ใครก็ทำเองได้ แต่สำหรับหลายท่าน ที่ยังเป็นมือใหม่หัดขับ ที่เพิ่งได้มีโอกาส ครอบครองรถยนต์ เป็นคันแรก อาจจะยังไม่มีความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์มากนัก อาจจะยังมีข้อสงสัย มากมายหลายเรื่อง ว่าการเช็คน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่อง ดู ยัง ไง ต้องเช็คยังไง ถึงจะรู้ว่า ควรถึงเวลาเปลี่ยน น้ำมันเครื่องหรือยัง
แล้วถ้าถึงเวลา เปลี่ยนแล้วละ จะทำยังไง จะต้องเลือก น้ำมันเครื่องยังไง มีแบบไหนบ้าง ให้เหมาะกับ รถยนต์ของเรา ก็ยังเป็นคำถาม ที่หลายคนสงสัยกัน ไม่เว้นแม้แต่ คนที่มีรถใช้มานานแล้ว แต่ไม่เคยเช็คเองเลย เอะอะก็เข้าศูนย์ เข้าอู่หาช่าง อย่างเดียวเลย
ซึ่งก็โปรดรู้ไว้นะ ว่าพี่ช่างเขา ก็ต้องการขายของ ต้องการรายได้จากการ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จากคุณ ๆ ท่าน ๆ เพื่อไปเลี้ยงชีพเขา อยู่เหมือนกัน เขาจึงจะแนะนำ ให้คุณควรเปลี่ยนถ่าย น้ำมันเครื่อง รถของคุณเอาไว้ก่อน เพื่อสุขภาพดี ของรถยนต์ของคุณ
แต่ถ้าเราไม่พร้อม ที่จะมีค่าใช้จ่ายตรงนั้นละ!! เราก็ควรต้อง มีความรู้พื้นฐาน ในการตรวจเช็ค เอาไว้นะจ๊ะ จะได้ไม่ต้อง ไปรบกวนพี่ช่างเขาบ่อย ๆ
เช็คน้ำมันเครื่อง ขั้นตอนเบื้องต้น ควรทำอย่างไร ?
การตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง นั้นไม่ได้มี อะไรซับซ้อน เกินกว่าที่เรา จะเข้าใจกันเลย เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ โดยให้เราเปิดฝา กระโปรงหน้ารถขึ้นมา
โดยในรถแต่ละคัน จะมีสลักในการดึง เปิดฝากระโปรงหน้ารถ ที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้ว จะอยู่ในบริเวณ ใต้พวงมาลัย ของคนขับ หรือด้านข้างเบาะนั่ง ของคนขับ ให้ท่านดึงสลักขึ้น เพื่อเปิดฝากระโปรงหน้ารถ
หลังจากเมื่อท่าน เปิดฝากระโปรงหน้ารถแล้ว ให้ท่านมองหา ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง ที่ปกติแล้ว จะอยู่บริเวณ ติดกับเครื่องยนต์ มีลักษณะ เป็นก้านและมีห่วง ที่ไว้สำหรับดึง
ท่านควรเตรียม เศษผ้าสะอาด เพื่อไว้ใช้ในการ เช็ดก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง เมื่อท่านเห็นก้าน วัดระดับน้ำมันเครื่องแล้ว ให้ท่านดึงก้านวัด น้ำมันเครื่องออกมา แล้วเช็ดให้สะอาด โดยเศษผ้าที่เตรียมไว้
จากนั้น สอดกลับเข้าไป ยังที่เดิมอีกครั้ง แล้วดึงออกมา เพื่อตรวจสอบ ระดับของน้ำมันเครื่อง ถ้าระดับของน้ำมันเครื่อง ต่ำกว่า L ให้ทำการเติม ให้ได้ระดับ ด้วยน้ำมันเครื่อง ที่มีคุณสมบัติเฉพาะทาง โดยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
1.) จอดรถอยู่บนพื้นราบ ไม่ควรให้ตัวรถ เอนไปด้านใดด้านหนึ่ง ควรระดับน้ำมันเครื่อง ในขณะเครื่องยนต์เย็นตัว ถ้าจะให้ดี ควรวัดระดับน้ำมันเครื่อง ในตอนเช้าก่อนจะสตาร์ตเครื่อง จะเป็นการเช็คที่ดีที่สุดครับ
และถ้าจะวัด ขณะเครื่องร้อน ต้องวัดหลังจาก ดับเครื่องแล้วประมาณ 15 นาที เป็นอย่างน้อย เพื่อให้มันเครื่อง ได้ไหลกลับลงอ่าง น้ำมันเครื่องอีกครั้งหนึ่ง และรอให้น้ำมันเครื่อง เย็นตัวลง
2.) ชักก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็ดน้ำมันเครื่อง ที่ติดกับก้านวัด ด้วยผ้าสะอาด ที่เตรียมเอาไว้ ควรเช็ดให้สะอาด ไม่ให้เหลือคราบ น้ำมันเครื่องเก่า
3.) สอดก้านวัดน้ำมันเครื่อง กลับลงไป ยังที่เดินจนสุด แล้วทิ้งไว้สักพัก
4.) ชักก้านวัดน้ำมันเครื่อง ออกมาอีกครั้ง และตรวจดู ถ้าระดับน้ำมันเครื่อง อยู่ในระหว่าง ระดับขีด F และ L แสดงว่า ระดับ น้ำมันเครื่อง ปกติ ใช้ได้แล้ว แต่ถ้าระดับอยู่ที่ L หรือต่ำกว่า ให้เติมน้ำมันเครื่องทันที
5.) ให้สังเกตสี ของน้ำมันเครื่อง ว่าสีของน้ำมันเครื่อง เป็นอย่างไร ถ้าสีของน้ำมันเครื่อง ยังคงใสไม่ขุ่นมัว แสดงว่ายังคงใช้ได้ แต่ถ้าสี ของน้ำมันเครื่องเข้มขึ้น จนเกือบจะเป็นสีดำ หรือมีลักษณะขุ่นมัว หรือมีตะกอน ควรทำการ รีบเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง โดยด่วน
6.) นอกจากการดูสี ของน้ำมันเครื่องแล้ว ยังควรสังเกต ความหนืด ของน้ำมันเครื่องด้วย ที่การวัดน้ำมันเครื่องบางรุ่น จะมีรูปวงกลม ไว้ให้คอยสังเกต ถ้าน้ำมันเครื่อง มีความหนืดมากเกินไป ก็จะเกาะอยู่เต็มวง ของรูก้านวัด ควรรีบเปลี่ยนถ่าย น้ำมันเครื่องโดยด่วน
ข้อควรระวัง!!! ไม่ควรเติมน้ำมันเครื่อง สูงจนเกินไป น้ำมันเครื่อง จะเดินทาง ผ่านแหวนลูกสูบ ขึ้นไปเผาไหม้ ร่วมกับน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ควันไอเสีย มีสีขาว และแรงดัน ในห้องเพลาข้อเหวี่ยงสูง จะดันให้น้ำมันเครื่อง ทะลักออกมา ทางท่อไอเสียได้
และถ้าระดับ น้ำมันเครื่องต่ำเกินไป ปั๊มน้ำมันเครื่อง จะไม่สามารถดูด น้ำมันเครื่อง ไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้อย่างพอเพียง ผลคือชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ เสียหายอย่างรวดเร็ว สรุปง่ายๆก็คือ “เครื่องพัง”
5 สัญญาณเตือน ที่บอกว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
1. อัตราเร่งอืดและแย่ลง : สำหรับท่าน ที่ขับรถอยู่บ่อย ๆ หรือใช้รถ เป็นประจำทุกวัน จะสามารถสังเกตได้ ถึงความเปลี่ยนแปลง ของรถของท่าน ได้จากความรู้สึก ที่เปลี่ยนไป เมื่อทันเหยียบคันเร่ง ถ้าท่านรู้สึกว่า อัตราการเร่งของรถท่าน ผิดปกติหรือลดน้อยลง เรียกง่าย ๆ ว่ารถอืดลงนั่นเอง ก็อาจสันนิษฐานได้ว่า น้ำมันเครื่องรถยนต์ของท่าน อาจเสื่อมสภาพไปแล้ว ก็เป็นได้ ควรรีบตรวจเช็ค และเปลี่ยนถ่ายโดยด่วน
2. สีของน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไป : โดยปกติแล้ว น้ำมันเครื่องใหม่ จะมีสีเหลืองอำพัน แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ สี น้ำมันเครื่อง ควรเปลี่ยน จะกลายเป็นสีเทา หรือดำ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ให้รีบเปลี่ยนถ่ายโดยด่วน
3. กินน้ำมันมากขึ้น : เมื่อฉันรู้สึกว่า รถของท่าน กินน้ำมันมากกว่าปกติ นั้นอาจจะเป็นสาเหตุ มาจากประสิทธิภาพ ของน้ำมันเครื่องนั้นลดลง ทำให้น้ำมันเครื่อง เกิดความหนืด น้ำมันเครื่อง เป็นโคลน pantip จนปั๊มน้ำมันเครื่อง ไม่สามารถดูดน้ำมันเครื่อง ไปจ่ายได้ทั่วตัวเครื่อง ควรรีบเปลี่ยนถ่าย น้ำมันเครื่องโดยด่วน
4. จอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน : การจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ โดยไม่ค่อยได้ใช้งาน อย่างน้อย ๆ ก็ควรทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 6 เดือน และหมั่นมาสตาร์ทเครื่อง ทิ้งไว้ครั้งละประมาณ 10 นาที ถึงครึ่งชั่วโมง เพื่อให้น้ำมันเครื่อง ได้ไปเคลือบตัวเครื่องยนต์ของรถท่าน
5. เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นผิดปกติ : วิธี ดู น้ำมันเครื่อง แห้ง เมื่อท่านสังเกตเห็น ถึงความผิดปกติ ของเสียงที่ออก มาจากห้องเครื่อง ที่อาจมีเสียงดังกว่าปกติ นั่นอาจจะมาจากสาเหตุ น้ำมันเครื่องแห้ง หรือเสื่อมสภาพไปแล้ว ให้ท่านทำการตรวจเช็ค และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องโดยด่วน
___ หลงวาริน ___