มอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้า รีวิวมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ต้องเสียค่าน้ำมันเยอะ จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ?

มอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้า

มอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้า ปัญหาในปัจจุบันของประเทศไทย ที่หลายคนจะต้องเจอ 

มอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้า ไม่ว่าจะวัยทำงาน วัยรุ่น หรือวัยไหน ๆ ก็ตาม ที่จะต้องใช้รถส่วนตัวของตนเอง ไม่ว่าจะรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ หรือแม้แต่รถ 10 ล้ออะไรแบบนี้ ก็คงจะไม่พ้นกับเรื่องปัญหาของน้ำมันราคาแพง เพราะในปัจจุบันราคาน้ำมันของประเทศไทยแพงมาก เรียกได้ว่าทำเอาบางครอบครัวกุมขมับเลยล่ะค่ะเพราะเงินไม่พอค่าน้ำมัน

ยิ่งถ้ากับเด็กวัยรุ่น หรือครอบครัวไหนที่จะต้องออกไปทำงาน ไปเรียน ไปทำภารกิจหลาย ๆ คน และไปคนละทาง ก็ต้องใช้รถคนละคัน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า วิ่งไกล บอกเลยว่าเรื่องค่าน้ำมันนี่ไม่ต้องพูดถึง น้ำตาเล็ดกันเลยทีเดียวค่ะแต่ละบ้าน 

โดยเฉพาะน้ำมัน 95 เป็นพันเลยทีเดียว เลยทำให้ เงินเดือนบางคน ก็ไม่พอ แต่บางคน ก็ต้องใช้รถในการไปทำงาน ในการเดินทางไปทำงาน หรือแม้แต่เด็กนักเรียนวัยรุ่นบางคน ก็เริ่มขี่รถไปเองแล้ว ก็จะเริ่มต้องเสียค่าน้ำมันก็ทำให้เพิ่มค่าใช้จ่ายในบ้านอีก เลยเป็น 1 อีกทางเลือก ให้หลาย ๆ คนได้เลือกใช้กันค่ะ

ข้อดีของรถ มอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้า นี้ก็คือ ไม่ต้องเติมน้ำมันค่ะ แต่จะต้องใช้แบตเตอรี่แทน อาจจะต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยค่ะ รถนี้จะมีน้ำหนักที่มากกว่าจักรยานไฟฟ้า นอกจากจะมีรถแบบนี้แล้ว แล้วก็มีเป็นรถยนต์ไฟฟ้าด้วยค่ะ แบบ 4 ล้อ นอกจากนี้ยังมีเป็นรถกอล์ฟไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอีกด้วยค่ะ เห็นแบบนี้ พวกรถไฟฟ้าแบบนี้ก็มีมานานแล้วเหมือนกันค่ะ

เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.1911 เลยล่ะค่ะ เสร็จแล้วทางบริษัทที่ผลิตรถไฟฟ้าพวกนี้ก็เริ่มผลิตรถไฟฟ้าอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งในปี ค.ศ.1974 รถมอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้าก็เริ่มวางขายตามท้องถนนมากขึ้น เริ่มหาง่ายมากขึ้น 

มอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้า

เริ่มเป็นที่รู้จักค่ะ นอกจากนี้ยังมีทั้งแบบที่เป็น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผู้ใหญ่ และของเด็กอีกด้วย แต่ถ้าเป็นของเด็กก็จะออกเป็นรถของเล่นค่ะ แต่เป็นรถของเล่นที่สามารถขับได้จริง สำหรับเด็ก ๆ ค่ะ แต่ไม่สามารถขับออกถนนใหญ่ได้ค่ะ

แต่ก็เพราะว่าราคาค่อนข้างที่จะสูง หรืออาจจะมีแบตเตอรี่ที่ไม่เพียงพอต่อการเดินทางไกล ๆ เลยทำให้ไม่ค่อยน่าซื้อสักเท่าไหร่สำหรับคนที่ต้องเดินทางไกล ๆ อยู่บ่อยครั้ง แต่ถ้าสำหรับคนที่เดินทางใกล้ ๆ บ้าน หรือขับรถไปซื้อกับข้าว ไปตลาดหน้าปากซอย แป๊บเดียวก็ถือว่าเป็นรถที่น่าใช้มาก ๆ เลยล่ะค่ะ เพราะจะประหยัดค่าน้ำมันได้เยอะพอสมควรเลยค่ะ 

และก็เพราะว่าคนไทยส่วนใหญ่ มักจะทำงานไกลจากที่บ้าน บางคนใกล้ แต่รถก็ดันติด เลยทำให้ประเทศไทยเราก็เลยไม่ค่อยเห็นคนใช้ แต่ก็มีเป็นส่วนน้อยค่ะที่ใช้ ส่วนใคร ที่กำลังเลือกซื้อ และยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอารถ รุ่นไหนดี รุ่นไหนมีคุณสมบัติอย่างไร 

ลองดูที่ข้อดีข้อเสียของรถ มอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้า ดูค่ะ ในส่วนของข้อดีของรถไฟฟ้าก็คือ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมค่ะ ไม่มีมลพิษทั้งทางเสียง และกลิ่น หรืออากาศเลย แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย และยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ แม้จะเป็นที่บ้านของเรา 

แต่ถ้าเป็นข้อเสียก็จะ ราคาสูงนั่นแหละค่ะ ระยะการขับด้วย เพราะไม่สามารถขับได้ในระยะไกล ๆ แถมสถานที่บางสถานที่ ก็ไม่สามารถชาร์จแบตได้ และยังต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการบำรุงรักษาของระบบรถแบบนี้อีกด้วย เห็นแบบนี้ มอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้า ก็มีขยะแบตเตอรี่ด้วยนะคะ เราจะต้องหาวิธีกำจัดอีกด้วย และไม่มีเพียงแค่รถนี้ ที่จะมีคุณสมบัติประมาณนี้ค่ะ

แต่จะเป็นรถอื่น ๆ อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 4 ล้อ หรือแม้แต่รถกอล์ฟไฟฟ้า แต่ข้อดีข้อเสียอาจจะไม่ได้มีเหมือนกับของมอเตอร์ไซค์แต่ก็จะคล้าย ๆ กันค่ะ และในครั้งนี้ชาเย็นสีส้มก็จะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก และสามารถเอาไปเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมได้ค่ะ มาเริ่มกันที่รถคันแรกกันเลยค่ะ

มอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้า รีวิวคันแรกคือรุ่น Sailfish SFH – 150 Ls 

ในส่วนของตัวเครื่องรุ่นนี้ มีแบตอยู่ที่ 1500 W ค่ะ ใช้แบบ Lithium ขนาด 20 AH ที่ถูกพัฒนาโดย ผู้เชี่ยวชาญของแบตเตอรี่ชั้นนำ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า honda ของเมืองไทยที่มากกว่า 20 ปีเลยค่ะ 

รถรุ่น Sailfish SFH – 150 Ls คันนี้รักษาสิ่งแวดล้อมได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ เพราะไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น หรือควัน น้ำหนักของรถรุ่น Sailfish SFH – 150 Ls จะอยู่ที่ 85 กิโลกรัมค่ะ ไม่รวมแบตนะคะอันนี้ ในส่วนของขนาดก็จะอยู่ที่ 1980 x 580 x 1000 MM เลยค่ะ 

ในส่วนของการชาร์จแบตรถรุ่น Sailfish SFH – 150 Ls ก็ถือว่าชาร์จได้ค่อนข้างไวเลยทีเดียวค่ะ ชาร์จได้ง่ายด้วยค่ะ ไม่ต้องรอแบตหมดก็สามารถชาร์จได้ แต่ในเรื่องของความชาร์จไวนี่ก็อยู่กับปริมาณแบตที่ได้ใช้ไปด้วยนะคะ 

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า มีทะเบียน

แต่ถ้าหากคิดเป็นระยะทางก็จะอยู่ที่ 5 นาที ต่อ 1 กิโลเมตรค่ะ ก็คือถ้าเราเดินทางไปประมาณ 1 กิโลแล้ว อยากจะชาร์จแบตให้ได้เท่าเดิมก็จะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีค่ะ 

ในส่วนของสีรถรุ่น Sailfish SFH – 150 Ls ก็มีหลายสีให้เลือกค่ะ ทั้งสีชมพู สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน สีฟ้า เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ ขนาดกะทัดรัดไม่ใหญ่ไม่เล็กกำลังพอดีค่ะ 

ราคาก็จะอยู่ที่ 69,900 – 99,900 บาทค่ะ รถรุ่น Sailfish SFH – 150 Ls ใช้ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 75 กิโลเมตร / ชั่วโมง ค่ะ ขับสบาย เบา ไม่หนักตัวค่ะ เหมาะมากถ้าจะขับรถไปทำงานที่ใกล้ ๆ หรือว่าโรงเรียนใกล้ ๆ ก็เหมาะมาก ๆ เลยค่ะ ไม่ต้องใช้น้ำมันด้วย ไม่ได้เดินทาง ไป – กลับ ไกลมาก

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย มอเตอร์ไซค์ที่เหมาะกับการขับไปไหนใกล้ ๆ

มาต่อกันที่รุ่นที่ 2 เลยค่ะ นั่นก็คือรุ่น Type X ค่ะ เป็น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า มีทะเบียน ได้ค่ะ เป็นของแบรนด์ Bosch แบบ Hub ความแปลกคือ มอเตอร์อยู่ในตัวล้อค่ะ 

ในส่วนของแบตเตอรี่ก็จะใช้ของ Battery SAMSUMG ค่ะ เป็นแบบสลิม 60 v26 AH และยังสามารถเพิ่มแบตอีกก้อนได้ด้วยค่ะ เพราะเขาจะมีช่องว่างไว้ให้เราเพิ่มได้ค่ะ

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย

ในส่วนของขนาด รถรุ่น Type X ก็จะอยู่ที่ 670 x 1880 x 1090 มม. (มิลลิเมตรค่ะ) น้ำหนักตัวรถไฟฟ้ารุ่นนี้จะอยู่ที่ 93 กิโลกรัมค่ะ ในส่วนของไฟรถ รุ่น Type X จะเป็นกรอบไฟ DPL ค่ะ เป็นรูปตัว X ตามชื่อรุ่นเลยค่ะ 

ส่วนของไฟเลี้ยวก็จะเป็นไฟ LED ค่ะ อยู่ตรงชุดพลาสติกครอบแผงบนคอของตัวมอเตอร์ไซค์ ส่วนของไฟท้ายจะเป็นทรง 5 เหลี่ยมอันใหญ่ ๆ เลยค่ะ ขนาดของด้านข้างก็จะเป็นไฟเลี้ยวดวงโตเหมือนกันเลยค่ะ 

รถรุ่น Type X มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าราคาถูก ราคา 58,200 บาทค่ะ แถมมีดีไซน์ที่สวย เรียบเนียน ดูสบายตาด้วยค่ะ จะมีลักษณะกับมอเตอร์ไฟทั่วไปที่คนส่วนใหญ่ใช้เลยค่ะ เป็นอีกรุ่นที่เหมาะกับการขับรถไปพื้นที่ที่ใกล้ ๆ ค่ะ

ก็จบไปแล้ว สำหรับการรีวิวทั้ง 2 รุ่น นอกจากนี้ก็จะมีเรื่องของ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2022 และ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 3000w สามารถติดตามได้ที่ มอเตอร์ไซค์ ได้เลย

ชาเย็นสีส้ม