4 วิธีใช้รถช่วงน้ำท่วม ที่คุณต้องรู้
4 วิธีใช้รถช่วงน้ำท่วม อย่างที่รู้ ๆ กันว่าปีนี้ เป็นปีที่ฝนตกชุก ตลอดระยะเวลา ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา และยังไม่หมด ยังจะมีพายุ ตามมาอีกหลายลูก ทำให้ฝนตกหนัก ติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้เกิด น้ำท่วมขัง ตามท้องถนน ทำให้การสัญจร บนท้องถนน ติดขัดไม่สะดวกอย่างยิ่ง
สำหรับคนรักรถแล้ว คงทำใจได้ยาก ที่รถสุดรักสุดหวง ต้องมาลุยน้ำ อาจก่อให้เกิด ความเสียหายได้ ไม่ว่าจะเป็น ภายนอกตัวรถ หรือภายในที่เรา อาจมองไม่เห็น ทำให้อายุ การใช้งานหรือ ประสิทธิภาพ ของรถลดลง และอาจส่งผลเสีย อีกหลายต่อหลายอย่าง ตามมาอีกสารพัด นับไม่ถ้วน
วันนี้เรามี สาระดี ๆ มานำเสนอ เพื่อคุณจะได้ นำไปปรับใช้ เพื่อให้การใช้รถ ได้อย่างคุ้มค่า คุ้มเงินคุ้มราคา ที่คุณอุตส่า เก็บหอมรอมริบ ซื้อมาอย่างยากลำบาก เผื่อบางทีบางคน วันนึงข้างหน้า อยากจะเปลี่ยนรถ เป็นคันใหม่ หรือรุ่นใหม่บ้าง ราคาขายต่อ จะได้ไม่เสีย เรามาดูกันเลย ว่ามีวิธีอะไรบ้าง
4 วิธีใช้รถช่วงน้ำท่วม เริ่มต้นที่คุณ รู้จักรถคุณดีหรือยัง(1)
ก่อนอื่นเลย คุณต้องรู้จัก รถของคุณเอง ว่าลักษณะภายนอก หรือความสูงของตัวรถ กล่าวคือ รถบางคันอาจ มีการตกแต่ง ที่ตัวรถด้วย การโหลดเตี้ย หรือมีการติดตั้ง อุปกรณ์ต่าง ๆ หากวิ่งไปบนถนน เจอน้ำท่วมขัง เพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้ อุปกรณ์หรือ ชิ้นส่วนเหล่านั้น หลุดได้ง่าย
รถเก่าที่อายุ 10 ขึ้นไปยิ่งต้อง ใช้ความระมัดระวัง ในการขับลุยน้ำ มากเป็นพิเศษ เพราะอุปกรณ์ หรือชิ้นส่วนหลาย ๆ จุดนั้น เริ่มเสื่อมสภาพไป โดยเฉพาะจุดที่ เป็นซีลกันน้ำมัน หรือจำพวกของเหลว ทุกชนิดนั้นเริ่มเสื่อม ทำให้น้ำจากภายนอก รั่วซึมเข้าไป ภายในเครื่องยนต์ได้ ก่อให้เกิดเป็น สนิมภายเครื่องยนต์ ทำให้ฟันเฟือง ต่าง ๆ ลูกสูบ แหวน เพลาข้อเหวี่ยง อาจได้รับ ความเสียหายได้
2 วางแผนเส้นให้ดี ก่อนออกเดินทาง
ทุกวันนี้ง่าย และสะดวกกว่า เมื่อก่อนมาก จะไปไหนมาไหน แม้ไม่เคยไป หรือไม่รู้จักเส้นทาง ที่กำลังจะเดินไปมาก่อน ก็หมดห่วง ไร้กังวล เพราะเรามีตัวช่วย คือแอพแผนที่ ที่เราคุ้นเคยกันดี ซึ่งมาอยู่ในมือถือ ของทุกคนอยู่แล้ว อย่างที่นิยม ใช้กันมากที่สุด แอพพลิเคชั่นหนึ่งเลย นั่นก็คือ Google maps
หลายคนบอกว่า คนอื่นทั่ว ๆ ไปเขาก็ใช้ เป็นปกติอยู่แล้ว แล้วแอดมิน จะมาบอกทำไม ถามว่าคุณใช้ คุ้มค่าหรือยัง ได้ถึงครึ่งไหม วันนี้จะมาแนะนำ การใช้งานเชิงลึก เช่น การเพิ่มจุดแวะ ในแผนที่ หากคุณต้องการ เดินทางไปใน หลายที่หลายจุดหมาย คุณสามารถเพิ่ม จุดแวะลงไป ระหว่างเส้นทาง ที่คุณกำลัง จะเดินทางไป ตัวแอพจะคำนวณ ให้คุณเองว่า คุณควรแวะจุดไหน ก่อนหรือหลัง หร้อมคำนวณเส้นทาง และเวลาให้เส็จสรรพ
3 ตั้งสติ หากสตาร์ทออกไปแล้ว
หากคุณจำเป็น ที่จะต้องขับรถ ออกมาจากบ้านจริง ๆ แล้วล่ะก็ ไม่ว่าคุณจะ เดินทางไปทำงาน หรือมีธุระสำคัญ ในเมื่อคุณสตาร์ทรถ ออกจากบ้านมาแล้ว จงตั้งสติให้ดี พึงระลึกไว้ และทำใจไว้เลยว่า จะต้องไปเจอน้ำท่วม ตรงไหนสักแห่ง แน่ ๆ เลย
เผื่อเวลาการเดินทาง เพิ่มมากขึ้นจากเดิม อาจจะต้องยอม ขับรถอ้อมไปยัง เส้นทางอื่นบ้าง ที่ไม่มีน้ำท่วม ยังจะดีเสียกว่า ขับไปบนทาง ที่ใกล้กว่า แต่เสี่ยงน้ำจะเข้ารถ ก่อให้เกิด ความเสียหายขึ้น ไม่คุ้มค่ากันเลย แค่คุณตื่นเช้าขึ้น ออกเร็วหน่อย ไปถึงที่หมาย ก่อนเวลาบ้างก็ดี
หากต้องลุยน้ำจริง ๆ ให้ใช้เกียร์ต่ำ ค่อย ๆ ขับผ่านไปอย่างช้า ๆ อย่าให้เครื่องยนต์ ดับเด็ดขาด เพราะการขับขี่ ด้วยเกียร์สูงหรือ ใช้ความเร็วสูงนั้น อาจทำให้น้ำ กระเด็ดหรือกระฉอก เข้าไปในห้องเครื่อง ถ้าหากไปโดน ระบบไฟฟ้า อาจช็อตเสียหายได้ หากน้ำเข้าไปใน กรองอากาศได้ น้ำจะเข้าไป ในเครืองยนต์ได้ อันนี้แหล่ะ จะทำให้เสียหายหนัก ถึงขั้นเครื่องยนต์พัง ฝาสูบแตก ก้านสูบคด ก็มีมาแล้ว
4 เช็คสภาพ ตรวจสอบ และแก้ไข
เอาล่ะครับ หากเมื่อคืนคุณได้ขับรถ ไปลุยน้ำมา เช้าวันรุ่งขึ้นบอกได้เลยว่า มีงานเข้าเต็ม ๆ หากแค่ลุยน้ำ ในระดับแค่ปริ่ม ๆ ล้อ อาจส่งผลกระทบ แค่ระบบเบรค ถ้าเป็นไปได้ ก่อนถึงบ้านซัก 100 เมตร ให้คุณแตะเบรคเบา ๆ เพื่อให้เกิดความร้อน ช่วยไล่น้ำและความชื้นจากระบบเบรคได้
หากระดับน้ำ ที่ไปลุยมาสูงราว ๆ ครึ่งของล้อรถ ขึ้นไปแล้วนั้น สันนิษฐานได้เลยว่า น้ำอาจเข้าไป ภายในเครื่องแล้ว รวมถึงเกียร์ด้วย คุณจำเป็นจะต้อง เปลี่ยนถ่ายของเหลว ทั้งหมดทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ รวมไปจนถึง น้ำมันเฟืองท้ายด้วย หากปล่อยให้น้ำ เข้าไปผสมกับ น้ำมันต่าง ๆ เหล่านี้ จะส่งผลเสีย ต่อชิ้นส่วนภายใน ซึ่งวัสถุส่วนใหญ่ ทำจากเหล็ก จึงทำให้เกิด สนิมได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ชั่วข้ามคืน เท่านั้น
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับข้อมูลความรู้ดี ๆ ที่เรานำมาฝาก ทางทีมงานหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่รักและ ใส่ใจดูแลรถ โปรดคอยติดตาม เว็บไซด์ของเรา จะนำข้อมูล ที่มีประโยชน์ มาอัพเดทให้คุณ ถึงหน้าจอที่นี่